LITTLE TOKYO
Little Tokyo เมื่อวินเทจพบเจแปนนิส
ถนนสุขุมวิท 71 (ปรีดีพนมยงค์) ความแออัดที่มีเอกลักษณ์ถนนอันเก่าแก่ที่มีประวัติมายาวนาน ย่านที่เต็มไปด้วยร้านอาหารตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน เมื่อคุณขับรถเข้ามาในซอยปรีดีพนมยงค์ 42 ทาวเฮ้าส์เรียงรายนับสิบหลัง แต่มีทาวน์เฮ้าส์ที่ดูแปลกตาจากหลังอื่นๆ ภายนอกตัวบ้านเป็นสีขาวตัดด้วยกรอบประตูหน้าต่างที่ทำจากเฟรมไม้สีเข้ม ดูแล้วเจือกลิ่นอายไสตล์ญี่ปุ่นเล็ก ๆ แค่เห็นเพียงดีไซน์ตัวบ้านด้านนอกกลับรู้สึกผ่อนคลาย เสน่ห์ของมันชวนให้ผู้อยู่อาศัยอยากหลีกหนีจากความวุ่นวายภายนอกและใช้เวลาอยู่ในบ้านหลังนี้ทันที เหมาะกับชื่อที่เจ้าของบ้านใช้เรียก “ Little Tokyo ”
ถัดมาที่ชั้นสองของบ้านเป็นส่วนของห้องนอน เมื่อเข้ามาถึงจะเห็นห้องนอนโปร่งโล่งสีขาว ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายตา มีแสงธรรมชาติส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้ามารำไร มีเตียงที่ปูด้วยผ้าปูสีขาวอยู่กลางห้อง ตกแต่งฝ้าเพดานด้านบนแบบสโลป รับกันได้ดีกับผนัง ยิ่งมีแสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องผ่านม่านสีขาวบางเบา ยิ่งสร้างบรรยากาศให้ห้องนอนแห่งนี้มีอารมณ์ชวนฝันได้อย่างบอกไม่ถูก ซึ่งโครงสร้างเดิมของห้องนอนนี้ เดิมทีฝ้าเพดานค่อนข้างต่ำ ผู้ออกแบบจึงเปิดฝ้าเพดานขึ้นไปแล้วเล่นดีไซน์ด้วยการทำฝ้าเฉียงสโลป ทำให้รู้สึกราวกับอยู่ห้องใต้หลังคา นอกจากนี้ในส่วนของตัวฝ้าเพดานยังสร้างแพทเทิร์นให้ฝ้า ทำให้ดูสนุกสนานและทำให้ห้องนี้ไม่เรียบจนเกินไป การเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้กับห้องนี้ยังคงคุมความเป็น NORDIC DESIGN ผสมความเป็นธรรมชาติจากวัสดุสีไวท์โอ๊ค และของตกแต่งที่ดูกลมกลืนกับธรรมชาติแวดล้อมภายนอก
ถึงบ้านหลังนี้จะทำการรีโนเวทเพื่อปล่อยเช่า แต่เจ้าของบ้านมีความเอาใจใส่ในรายละเอียดตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการก่อสร้าง ที่น่าประทับใจยิ่งไปกว่านั้นนั่นก็คือการเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยที่ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด ก็ต้องการความผ่อนคลายด้วยกันทั้งนั้น เฉกเช่นบ้านหลังนี้ที่เจ้าของบ้านใช้การออกแบบที่มีความเข้าใจในตัวบ้านและความเข้าใจในความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างชัดเจนด้วยเช่นกัน
สิ่งแรกที่รู้สึกได้ เมื่อก้าวผ่านรั้วระแนงเหล็กสีขาวเข้าไป นั่นก็คือความไม่ส่วนตัวที่เป็นส่วนตัว เพราะทราบกันดีว่ารั้วของทาวเฮ้าส์จะเป็นรั้วเดียวกันกับของเพื่อนบ้าน แต่ผู้ออกแบบเลือกใช้ดีไซน์มาแก้ไข Pain point โดยใช้ไม้เฌอร่ามาตีเป็นแผงระแนงบังตาที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านขึ้นมาทันที เจ้าของบ้านจึงเกิดไอเดียปรับพื้นที่เล็กๆ หน้าบ้านไว้สำหรับนั่งจิบกาแฟยามเช้า พื้นที่ส่วนนี้จะใช้เป็นการจัดสวนเล็กๆ หรือปลูกหญ้าเพื่อเพิ่มสีเขียวก็ได้ แต่ในที่นี้ผู้ออกแบบเลือกปูหญ้าเทียมเพื่อการง่ายต่อการดูแลรักษาและจัดวางชุด Coffee Table เล็กๆ เพียงแค่นี้เราก็มีพื้นที่ผักผ่อนเพิ่มขึ้น
จากประตูและหน้าต่างบานใหญ่เฟรมไม้สีเข้มที่ตัดกับผนังปูนฉาบเรียบสีขาวกรุกระจกใสที่สามารถมองเห็นบรรยากาศภายนอกได้อย่างเต็มที่ เห็นแล้วชวนให้นึกถึงบ้านเก่าที่ให้อารมณ์ยุค 80 ผสมผสานกับการจัดตกแต่งมุมต้อนรับแขกไว้ใน Style Nordic มีเฟอร์นิเจอร์เพียงน้อยชิ้นอย่างโฟซาและสตูลที่เลือกใช้สีเทาอ่อนๆ ไปในโทนพาสเทลเพื่อเบรกความเข้มจากสีของกรอบไม้ ทำให้ห้องดูน่ารักละมุนละไมสายตา การตกแต่งที่ดูเรียบง่ายนี้ ผู้ออกแบบเลือกจัดวางของประดับตกแต่งด้วยการนำธรรมชาติมาแต่งเติมตามมุมต่างๆ เพื่อส่งเสริมงานดีไซน์ให้ห้องดูมีเส่นห์ขึ้นมาทันที จากมุมนี้ไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆ ภายในบ้านเปิดเชื่อมถึงกันหมดแม้กระทั่งส่วนทานข้าวและห้องครัว รวมถึงโถงบันไดที่ขึ้นสู่ชั้นสองผู้ออกแบบทำการปรับพื้นที่เพื่อขยายบันไดให้ดูโปร่งโล่งและเลือกใช้เป็นโครงเหล็กที่มีความแข็งแรงและทาสีขาวเพื่อลดทอนความหนักทำให้บรรยากาศในส่วนนี้ ดูขาวสะอาดสบายตา แถมยังรู้สึกโปร่งอีกด้วย
ให้ Photographer ที่มีความเข้าใจและความละเอียดตลอดจนการใส่ใจเข้าไปในการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพสวยๆ สามารถติดต่อ DEC MEDIA ได้นะคะ
PROJECT: LITTLE TOKYO
INTERIOR + ARCHITECT DESIGN: TEAM THEROOMMAKER
SERVICE: DEC PHOTOGRAPHY
PHOTOGRAPHER: ONGARD BUACHUANG
#รับทำ3Dsimulator #รับทำ3Dpresentation #รับทำออกแบบภาพ3มิติ #รับทำ3Dmodel #รับทำanimation #รับทำ3Danimation #รับทำ3Dperspective #รับออกแบบ3Dperspective #Photography #Architecture #InteriorDesign